top of page

เตือนก่อนตาย โรคเน่าทุเรียนที่มาพร้อมความชุ่มฉ่ำในหน้าฝน

รูปภาพนักเขียน: Kan WanaphuwadolKan Wanaphuwadol

ช่วงหน้าฝน ทุเรียนควรระวังโรคเน่าซึ่งสามารถทำให้ทุเรียนตายได้ อากาศร้อนชื้นในช่วงฤดูฝนเอื้อต่อการเกิดโรครากเน่า โคนเน่า และผลเน่า ซึ่งเป็นโรคสำคัญที่เกิดกับทุเรียน


นายศรุต สุทธิอารมณ์ ผู้อำนวยการสำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช กรมวิชาการเกษตร แจ้งเตือนให้เกษตรกรเฝ้าระวังโรครากเน่า โคนเน่า และผลเน่า โดยเฉพาะช่วงพัฒนาผลและเก็บเกี่ยว

อาการที่ราก: ใบที่ปลายกิ่งจะซีด เหี่ยว และหลุดร่วง หากอาการเน่าลามไปที่รากและโคนต้น จะทำให้ทุเรียนโทรมและยืนต้นตาย

อาการที่กิ่ง ลำต้น และโคนต้น: ใบเหลืองบางกิ่ง จะเห็นคล้ายคราบน้ำบนเปลือกกิ่งหรือลำต้น ถ้าแผลลามรอบโคนต้น จะทำให้ใบร่วงและต้นแห้งตาย

อาการที่ใบ: ใบอ่อนจะแสดงอาการเหี่ยว เหลือง มีแผลฉ่ำน้ำสีน้ำตาลอ่อนและเปลี่ยนเป็นสีดำ เส้นใบมีสีน้ำตาลดำ ใบจะไหม้และร่วงเร็ว โดยพบมากในช่วงฝนตกหนักต่อเนื่อง

อาการที่ผล: จะเกิดจุดแผลสีน้ำตาลดำบนผล แผลจะลามตามการสุกของผล หากมีความชื้นสูง อาจพบเส้นใยสีขาวของเชื้อราบนแผล ผลจะเน่าร่วงหล่นก่อนกำหนด พบอาการตั้งแต่ผลอ่อน แต่พบมากในช่วง 1 เดือนก่อนเก็บเกี่ยว

การป้องกันและกำจัด: ควรมีการระบายน้ำดี หากมีน้ำท่วมขังควรรีบระบายออก ปรับปรุงดิน ใส่ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ปรับสภาพดินให้ค่าความเป็นกรด-ด่าง ประมาณ 6.5 หากดินเป็นกรดจัด ให้ใส่ปูนขาวหรือโดโลไมท์ หลีกเลี่ยงการกระทำที่อาจทำให้รากหรือลำต้นเกิดแผล

หากต้นทุเรียนเป็นโรครุนแรงมากหรือตาย ควรขุดออกไปทำลายนอกแปลง แล้วราดดินในหลุมด้วยสารป้องกันโรคพืช เช่น ฟอสอีทิล–อะลูมิเนียม 80% WP หรือเมทาแลกซิล 25% WP อัตรา 30–50 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร แล้วทิ้งไว้ก่อนปลูกทดแทน

ควรตรวจแปลงปลูกสม่ำเสมอ เมื่อพบกิ่ง ใบ ดอก และผลที่เป็นโรค ให้ตัดแต่งและนำไปทำลายนอกแปลง แล้วพ่นสารป้องกัน เช่น เมทาแลกซิล 25% WP หรือฟอสอีทิล–อะลูมิเนียม 80% WP อัตรา 30-50 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร ทุก 7-10 วัน และหยุดพ่นก่อนเก็บเกี่ยว 15 วัน

เมื่อพบใบซีด ไม่เป็นมันเงาหรือใบเหลืองหลุดร่วง ให้ใช้ฟอสโฟนิก แอซิด 40% SL ผสมน้ำอัตรา 1:1 ฉีดเข้าลำต้น อัตรา 20 มิลลิลิตรต่อต้น และราดดินด้วยฟอสอีทิล–อะลูมิเนียม 80% WP หรือเมทาแลกซิล 25% WP

เมื่อพบโรคบนกิ่งหรือโคนต้น ให้ถากผิวเปลือกออก แล้วทาแผลด้วยฟอสอีทิล–อะลูมิเนียม 80% WP หรือเมทาแลกซิล 25% WP ทุก 7 วัน จนกว่าแผลจะแห้ง หรือใช้ฟอสโฟนิก แอซิด 40% SL ฉีดเข้าลำต้นหรือกิ่งบริเวณที่เป็นโรค

การเก็บเกี่ยวผลผลิตต้องไม่วางผลทุเรียนสัมผัสกับดิน ควรวางบนวัสดุสะอาดหรือล้อเข็น ระวังไม่ให้เกิดบาดแผลที่ผล หลังเก็บเกี่ยว ให้ตัดแต่งกิ่งแห้ง กิ่งเป็นโรค และขั้วผลที่ค้างอยู่ออกไปทำลายนอกแปลง เพื่อลดการสะสมของเชื้อโรค และทำความสะอาดเครื่องมือตัดแต่งทุกครั้งก่อนใช้งานต่อไป ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์ https://www.thairath.co.th/news/local/2412881




ดู 56 ครั้ง0 ความคิดเห็น

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด

Comments


"เลือกสรรสิ่งที่ดี...เพื่อพี่น้องเกษตรกรไทย"

©2020 by วีระพานิช 

1/1 ถนนเทศบาลสาย 4 ตำบลท่าใหม่ อำเภอท่าใหม่ จันทบุรี 22120

  • Line
  • Facebook
  • Untitled-2-03
  • Untitled-2-04
call-04.png

039-431 617

bottom of page